บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2017

ตอนที่ 5 : น่าน่า

ในขณะที่เดินออกมาจากโรงเรียนหงซาน สีหน้าของถางอู่หลินดูไม่ดีนัก สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขารู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก เขาเกิดมาในครอบครัวคนธรรมดา แต่ครอบครัวก็อบอุ่นดี พ่อกับแม่รักเขาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะทำอะไรผิด พ่อกับแม่ก็จะคอยสอนด้วยเหตุผลเสมอๆ แต่ในวันนี้ที่โรงเรียน เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับสิ่งที่เรียกว่า“ลำบาก”เพราะวิญญาณยุทธ์ของเขาที่เป็นหญ้าเงินฟ้านั่นคือเหตุผลที่ทำให้นักเรียนในห้องปฏิเสธเขาขนาดอาจารย์เองก็ดูไม่กระตือรือร้นกับเขาเท่าไหร่นัก ในตอนบ่ายที่อาจารย์สอนทำสมาธิ อาจารย์ก็ใช้เวลาอธิบายเขาน้อยที่สุด “วิญญาณยุทธ์ของข้า ไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอ?”สีหน้าที่ดูไม่ดีของถางอู่หลินได้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเข้มแข็ง เขากล่าวออกมาว่า“ถึงแม้ว่าวิญญาณยุทธ์ของข้าจะไม่ดี แต่ข้าก็จะต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณที่ยิ่งใหญ่ให้ได้ ท่านพ่อเคยบอกเอาไว้ ความสำเร็จมักมาจากความขยันเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์และความสามารถอีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ถ้าวิญญาณยุทธ์ของข้าไม่ดีพอ งั้นข้าก็จะต้องพยายามให้มากขึ้น!” เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็เริ่มร่าเริงมากขึ้น ความกดดันที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง แต่ว่าทำไม ข้าถึงหิ...

ตอนที่ 4 : เข้าเรียน

ถางจึหลานและหลางเย่ยังกินไม่อิ่ม อาหารที่อยู่บนโต๊ะก็ถูกลูกชายฟาดเรียบจนไม่มีเหลือ “ลูก เจ้ารู้สึกเสียใจเลยมาลงกับการกินอาหารอย่างนั้นหรือ?”เมื่ออาหารอย่างสุดท้ายได้ลงเข้าไปในท้องของถางอู่หลิน ถางจึหลานจึงถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ถางอู่หลินมองไปที่พ่อพลางกล่าวออกมาด้วยความสงสัย“ทำไมข้าถึงต้องเสียใจด้วยล่ะท่านพ่อ?” ถางจึหลานกล่าว“ลูก ที่พ่ออยากจะถามเจ้าก็คือเจ้าอยากจะให้พ่อช่วยย้ายเจ้าไปห้องเรียนธรรมดาหรือเปล่า?” ถางอู่หลินกล่าว“แน่นอนว่าต้องเข้าเรียนที่ห้องเรียนผู้ใช้วิญญาณสิ!ข้าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณ!” ได้ยินดังนั้น ถางจึหลานจึงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง“วิญญาณยุทธ์ของเจ้าคือหญ้าเงินฟ้า ถึงแม้ว่ามันจะเหมือนกับเรื่องเล่าของผู้ก่อตั้งนิกายถาง แต่ว่าหญ้าเงินฟ้าถือว่าเป็นวิญญาณยุทธ์ที่ธรรมดามาก การที่จะฝึกฝนนั้นยากลำบากมาก เจ้าจะต้องพบเจอกับอุปสรรคหลายต่อหลายอย่าง เจ้าแน่ใจแล้วนะว่าเลือกที่จะเดินทางนี้?” “อื้ม!ข้าจะต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณ หลังจากที่ข้าได้เป็นผู้ใช้วิญญาณแล้วก็จะหาเงินมาได้เยอะ ถึงตอนนั้นข้าจะได้ซื้อของดีๆให้กับท่านพ่อและท่านแม่”คำพูดของถางอู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยความความไร้เดียงส...

ตอนที่ 3 : บ้านของอู่หลิน

ถางอู่หลินที่เดินออกมาจากประตูสำนักหงซาน ร่างของเขาก็ยังไม่หยุดสั่น เขาที่เป็นศิษย์ใหม่ของสำนักหงซาน ในการปลุกวิญญาณยุทธ์แล้วมีพลังวิญญาณปรากฏขึ้นทำให้เขาถูกแยกไปอยู่ที่ห้องเรียนของผู้ใช้วิญญาณ ในสำนักนั้นห้องเรียนของผู้ใช้วิญญาณนับว่าเป็นห้องเรียนที่เป็นจุดสนใจอย่างมากที่สุด หัวที่บวมเป่ง ภายในร่างที่ร้อนระอุราวกับพลังงานที่ระเบิดออกมาภายในร่างของเขายังหายไปไม่หมด ทำให้ถางอู่หลินรู้สึกวิงเวียนอยู่เล็กน้อย “ลูก วิเศษย์มากเลย!”เสียงที่อ่อนโยนของถางจึหลานที่ดังขึ้นได้ปลุกถางอู่หลินให้ตื่นจากภวังค์ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองพ่อของตน เมื่อเห็นสายตาที่อ่อนโยนของพ่อเขาจึงถามขึ้นมาว่า“ท่านพ่อ หญ้าฟ้าเงินไม่ใช่วิญญาณยุทธ์ขยะหรอ?” ได้ยินดังนั้น ถางจึหลานกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า“วิญญาณยุทธ์ขยะแล้วยังไงล่ะ?เจ้าก็รู้นี่การที่มีพลังวิญญาณ ถือว่าเป็นเรื่องที่วิเศษย์ วิญญาณยุทธ์ขยะแต่มีพลังวิญญาณ อย่างนั้นไม่ใช่เรื่องที่วิเศษย์หรอกหรือ?ลูกของพ่อพิเศษกว่าใครๆ พ่อเคยพูดเรื่องของผู้ก่อตั้งนิกายถางให้เจ้าฟังไม่ใช่หรือ?วิญญาณยุทธ์ของเขาก็เป็นหญ้าเงินฟ้าเหมือนกันนะ……” บ้านของถางอู่หลินอยู่ในเขตพื้นที่ชุมช...

ตอนที่ 2 : วิญญาณยุทธ์

ถางอู่หลินที่ยืนอยู่ตรงกลางห้องปลุกพลังด้วยท่าทีเกร็งๆ เขากวาดสายตามองไปรอบๆอย่างไม่หยุด เขาเป็นแค่เด็กอายุหกขวบทั้งยังไม่มีพ่อแม่อยู่ในสถานการณ์ที่อยู่กับคนแปลกหน้าแบบนี้จะไม่ให้เขารู้สึกประหม่าได้ยังไง? ในตอนนั้นเอง ภายในฝ่ามือของสปิริตมาสเตอร์ก็ปรากฏแสงสว่างที่อบอุ่นขึ้น แสงสว่างสีขาวที่อบอุ่นนี่คือพลังวิญญาณที่กล่าวขานกันอย่างนั้นหรือ?มีเพียงผู้ใช้วิญญาณเท่านั้นถึงจะมีพลังที่แข็งแกร่งนี้ ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของเขา มือข้างขวาสปิริตมาสเตอร์ยกขึ้นไปกลางอากาศ แสงที่อยู่ภายในมือทั้งสองของเขาพุ่งทะลวงฝ่าอากาศออกไปราวกับดาวตกก่อนที่มันจะแตกตัวออกเป็นเสก็ดไฟที่สวยงามคล้ายกับดอกไม้ไฟเต็มไปทั่วทั้งห้องปลุกพลัง เส้นอักขระแต่ละเส้นสว่างขึ้น เริ่มจากเพดานลามลงไปจนถึงกำแพงทั้งสี่ด้านราวกับมีชีวิต จนสุดท้ายพวกมันก็ได้ไปรวมตัวกันตรงจุดที่ถางอู่หลินยืนอยู่ พลังงานได้ไหลเข้าไปจากฝ่าเท้าเข้าสู่ภายในร่างของเขาจนทำให้ร่างเล็กของถางอู่หลินสั่นสะท้าน เขารู้สึกเหมือนกับร่างทั้งร่างกำลังโดนไฟดูด สายตาของเขาเริ่มพล่ามัว ภาพแต่ละภาพได้ปรากฏขึ้นมาภายในหัวอย่างไม่หยุด เขาพยายามที่จะเพ่งเล็งมองภา...

ตอนที่ 1 : ปลุกพลัง

เมืองอ้าวหลายเป็นเมืองที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเลตะวันออกสุริยันจันทรา ในวันนี้ภายในเมืองคึกคักเป็นพิเศษเพราะว่าวันปลุกพลังที่จะมีมาปีละครั้งได้มาถึงแล้ว ผู้คนในแผ่นดินโตวหลัวต่างก็มีสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณยุทธ์แฝงอยู่ภายใน ซึ่งวิญญาณยุทธ์นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในร่างกายของพวกเขา มันสามารถที่จะเป็นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ พืชหรือแม้แต่อาวุธ ในตอนที่อายุหกขวบหลังจากที่ผ่านการปลุกพลังขึ้นมาวิญญาณยุทธ์ที่อยู่ภายในตัวก็จะถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น ถ้าเกิดว่าวิญญาณยุทธ์เป็นจอบ เช่นนั้นแล้ว ความสามารถในการทำสวนของคนๆนั้นก็จะแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ แต่ถ้าวิญญาณยุทธ์เป็นสัตว์ ก็ไม่แน่ว่าคนๆนั้นอาจจะได้ความสามารถพิเศษบางอย่างของสัตว์มา ดังนั้น วิญญาณยุทธ์จึงมีบทบาทที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เป็นอยู่ของผู้คน และที่สำคัญ ผู้คนต่างก็รอคอยการปรากฏขึ้นของพลังวิญญาณ พลังวิญญาณนั้นเป็นพลังชนิดหนึ่งที่เอาไว้ใช้หล่อเลี้ยงและพัฒนาวิญญาณยุทธ์ แต่ละคนต่างก็มีวิญญาณยุทธ์อยู่ภายในตัวแต่ทว่าหนึ่งพันคนมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะมีวิญญาณยุทธ์ที่มีพลังวิญญาณ พลังวิญญาณก็เปรียบเสมือนกับอนาคต ทั้งยังเปรียบเสมือนกับค...

บทนำ

 ต้นไม้สูงใหญ่ที่หนาทึบจนแสงแดงยังไม่อาจจะส่องผ่านเข้ามาได้ ภายในป่ามองเห็นเพียงแต่ความมืดมิด   ในส่วนลึกของป่า มีทะเลสาปขนาดเล็กอยู่แห่งหนึ่ง น้ำของทะเลสาปที่ใสจนสามารถมองเห็นพื้นที่อยู่ด้านล่างทั้งยังสะอาดราวกับอัญมณีน้ำฟ้า ทว่าระดับน้ำที่อยู่ห่างจากชายฝั่งดูเหมือนว่ามันกำลังจะแห้งลงทุกทีๆ พลังชีวิตที่เคยแพร่กระจายออกไปท่ามกลางทะเลสาป กลับเริ่มค่อยๆอ่อนแรงลงไป ตรงริมทะเลสาปมีคนๆหนึ่งยืนอยู่ เขาสวมชุดคลุมยาวสีดำอายุราวๆสี่สิบกว่าปี รูปลักษณ์ที่ดูหล่อเหลาเป็นประจักษ์ บนหน้าผากมีเส้นสีทองคาดอยู่ เขายืนนิ่ง สายตาที่เหม่อลอยของเขามองทอดออกไปที่เส้นขอบฟ้า ไม่ไกลจากเขามากนักมีคนอื่นที่ยืนอยู่ มีทั้งสูงทั้งเตี้ย ทั้งผอมทั้งอ้วน รูปร่างคละๆกันไป ทว่าสายตาของแต่ละคนนั้นกลับเต็มไปด้วยความมืดมนไร้หนทาง “เทพอสูร” ปรากฏร่างหญิงสาวสวมชุดสีเขียวมรกตคนหนึ่ง นางยืนอยู่ข้างหลังชายชุดดำพลางเอ่ยออกมาด้วยความเคารพ เมื่อได้ยินคำว่าเทพอสูรร่างของชายสวมชุดคลุมสีดำพลันสั่นเทา มุมปากเผยความขมขื่นออกมา “เทพอสูร ?พวกเราสัตว์อสูรในตอนนี้ เกรงว่าคงจะเหลือแค่นี้แล้ว ข้ายังจะเป็นเทพของใครได้อีก?” หญิงสาวสว...