บทนำ
ต้นไม้สูงใหญ่ที่หนาทึบจนแสงแดงยังไม่อาจจะส่องผ่านเข้ามาได้ ภายในป่ามองเห็นเพียงแต่ความมืดมิด
ในส่วนลึกของป่า มีทะเลสาปขนาดเล็กอยู่แห่งหนึ่ง น้ำของทะเลสาปที่ใสจนสามารถมองเห็นพื้นที่อยู่ด้านล่างทั้งยังสะอาดราวกับอัญมณีน้ำฟ้า ทว่าระดับน้ำที่อยู่ห่างจากชายฝั่งดูเหมือนว่ามันกำลังจะแห้งลงทุกทีๆ
พลังชีวิตที่เคยแพร่กระจายออกไปท่ามกลางทะเลสาป กลับเริ่มค่อยๆอ่อนแรงลงไป
ตรงริมทะเลสาปมีคนๆหนึ่งยืนอยู่
เขาสวมชุดคลุมยาวสีดำอายุราวๆสี่สิบกว่าปี รูปลักษณ์ที่ดูหล่อเหลาเป็นประจักษ์ บนหน้าผากมีเส้นสีทองคาดอยู่ เขายืนนิ่ง สายตาที่เหม่อลอยของเขามองทอดออกไปที่เส้นขอบฟ้า
ไม่ไกลจากเขามากนักมีคนอื่นที่ยืนอยู่ มีทั้งสูงทั้งเตี้ย ทั้งผอมทั้งอ้วน รูปร่างคละๆกันไป ทว่าสายตาของแต่ละคนนั้นกลับเต็มไปด้วยความมืดมนไร้หนทาง
“เทพอสูร” ปรากฏร่างหญิงสาวสวมชุดสีเขียวมรกตคนหนึ่ง นางยืนอยู่ข้างหลังชายชุดดำพลางเอ่ยออกมาด้วยความเคารพ
เมื่อได้ยินคำว่าเทพอสูรร่างของชายสวมชุดคลุมสีดำพลันสั่นเทา มุมปากเผยความขมขื่นออกมา
“เทพอสูร ?พวกเราสัตว์อสูรในตอนนี้ เกรงว่าคงจะเหลือแค่นี้แล้ว ข้ายังจะเป็นเทพของใครได้อีก?”
หญิงสาวสวมชุดสีเขียวมรกตเงียบไปครู่หนึ่งพลางกล่าวเสียงเบาออกมาว่า
“หมื่นปีมาแล้ว ตั้งแต่ที่ฮั่วอวี่ห้าวสร้างหอผ่านวิญญาณนี้ขึ้นมา จนมาถึงตอนนี้หอผ่านวิญญาณก็ยังคงอยู่แต่พวกเราในที่สุดก็ต้องหายไปเช่นนั้นหรือ?”
ได้ยินดังนั้น เทพอสูรกล่าวออกมาด้วยความขมขื่น“ความแข็งแกร่งของมนุษย์ ทำให้พวกเราไม่มีทางที่จะต่อต้าน ป่าดาราแห่งนี้เหลือพื้นที่ที่บริสุทธิ์อยู่แค่ที่เดียวเท่านั้น”
“นั่นสินะ……”หญิงสาวสวมชุดสีเขียวมรกตที่ครุ่นคิดเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่าง
ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพอสูรแหงนหน้ามองเห็นท้องฟ้า นัยน์ตาของเขาฉายแสงสีทองสว่างอออกมาสองเส้น ทันใดนั้นก็ปรากฏพลังที่น่ากลัวขึ้นจนทำให้โลกทั้งโลกสั่นไหวพลันสั่นไหว
“ครืน……”
พื้นดินที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขาสั่นคลอนไปมา น้ำที่อยู่ในทะเลสาปพลันเดือดขึ้นจนเกิดฟองสบู่ ฟองสบู่เหล่านี้ลอยขึ้นมาก่อนที่พื้นดินจะสั่นไหวรุนแรงขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น?มนุษย์มาแล้วอย่างนั้นหรอ?”หญิงสาวสวมชุดสีเขียวมรกตร้องกล่าวออกมา
“สู้!”ร่างเงาร่างใหญ่ยักษ์คำรามออกมาด้วยความโกรธ ก่อนที่จะปรากฏร่างหมีตัวใหญ่สูงเกินสามสิบเมตรขึ้นมา แสงสีทองหม่นเปล่งออกมาทั่วทั้งร่าง
“ฉงจุน ใจเย็นๆ ไม่ใช่มนุษย์”เทพอสูรกล่าวสีหน้าที่เหม่อลอยของเขาในที่สุดก็เผยความดีใจออกมา
“จบแล้ว、จบแล้ว、จบแล้ว……”เสียงเบาดังสะท้อนขึ้นมาภายในป่าเพราะความเบาของเสียงจึงไม่รู้ว่าคนที่กล่าวออกมานั้นเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
“ครืนน——”
พื้นดินเกิดรอยแตก ทั่วทั้งป่าสั่นไหวไปมาอย่างบ้าคลั่ง น้ำที่อยู่ในทะเลสาปได้ไหลลงไปในรอยแตกจนเผยให้เห็นพื้นของทะเลสาป
“แคร่ก——”
ปรากฏแสงสีเงินส่องสว่างขึ้นมาจากรอยแตกที่อยู่ตรงพื้นพลางตบลงมาที่ฝั่ง
ปรากฏกรงเล็บขนาดยักษ์แสงสีเงินส่องประกายระยิบระยับโอบล้อมไปด้วยเกล็ดสีเงิน เกล็ดแต่ละชิ้นส่องแสงสว่าง เสียงที่ตบลงมาเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาลจนถึงกับต้องทำให้ทุกชีวิตต้องก้มลงคุกเข่า
สายตาของเทพอสูรเต็มไปด้วยความปิติ เขาเดินเข้าไปก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่งแล้วกล่าวออกมาด้วยความนอบน้อมว่า
“ยินดีต้อนรับขอรับนายท่าน”
พื้นดินได้ระเบิดออกมาพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่งจนหมีร่างยักษ์สูงสามสิบเมตรกระเด็นลอยออกไป ร่างยาวกว่าร้อยฟุตได้ปรากฏขึ้นมา
ต้นไม้แต่ละต้นต่างโค่นล้มลง กลุ่มคนที่ยืนอยู่รอบๆได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสัตว์อสูร ทว่าพวกเขาที่อยู่ต่อหน้าร่างยักษ์สีเงินนี้ก็ทำได้แต่มอบคลานลงไปบนพื้นเท่านั้น
“มันตายแล้วแต่ข้ายังมีชีวิตอยู่”แผดเสียงคำรามกล่าวออกมา ทว่าน้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกที่โศกเศร้า“เจ้าพวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจ ต้องการที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเราอย่างนั้นหรือ?ข้าได้ตื่นขึ้นแล้วและวันหายนะของพวกเขาก็ใกล้จะมาถึง”
แสงสีเงินประกายแสงสว่างจ้าจนทำให้สัตว์อสูรร่างยักษ์ไม่กล้าที่จะมอง พวกมันตัวสั่นเทาพลางมอบคลานอยู่กับพื้น
เทพอสูรรีบกล่าวขึ้นมา“นายท่าน มนุษย์ในตอนนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งจิตวิญญาณของพวกเขาก็ยังสูงมากอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นข้าเองก็คงจะต้านทานได้ไม่เท่าไหร่ พวกมนุษย์ได้ใช้พลังของเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้พวกเราไม่มีทางที่จะสู้ได้เลย”
ร่างยักษ์สีทองพยักหน้าเล็กน้อยพลางแผดเสียงคำรามกล่าวออกมาจนเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า
“อยากจะกำจัดพวกเขา ก็ต้องเรียนรู้เรื่องของพวกเขาก่อน พวกเจ้ามาด้วยกันกับข้า โลกของพวกเราที่ใช้อาศัยอยู่ได้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของพวกเขา เช่นนั้นแล้ว พวกเราก็ต้องกำหราบโลกของพวกเขาซะ”
ร่างยักษ์ค่อยๆย่างเท้าเดินไปทางด้านนอกของป่า ภายใต้ความมืดมิดของป่าผืนใหญ่นี้กลับปรากฏแสงสว่างขึ้น ร่างที่ใหญ่ยักษ์ค่อยๆหดเล็กลง ก่อนที่ร่างจะกลายเป็นคนและหายวับไป……
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น