ตอนที่ 4 : เข้าเรียน

ถางจึหลานและหลางเย่ยังกินไม่อิ่ม อาหารที่อยู่บนโต๊ะก็ถูกลูกชายฟาดเรียบจนไม่มีเหลือ

“ลูก เจ้ารู้สึกเสียใจเลยมาลงกับการกินอาหารอย่างนั้นหรือ?”เมื่ออาหารอย่างสุดท้ายได้ลงเข้าไปในท้องของถางอู่หลิน ถางจึหลานจึงถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ถางอู่หลินมองไปที่พ่อพลางกล่าวออกมาด้วยความสงสัย“ทำไมข้าถึงต้องเสียใจด้วยล่ะท่านพ่อ?”

ถางจึหลานกล่าว“ลูก ที่พ่ออยากจะถามเจ้าก็คือเจ้าอยากจะให้พ่อช่วยย้ายเจ้าไปห้องเรียนธรรมดาหรือเปล่า?”

ถางอู่หลินกล่าว“แน่นอนว่าต้องเข้าเรียนที่ห้องเรียนผู้ใช้วิญญาณสิ!ข้าจะเป็นผู้ใช้วิญญาณ!”

ได้ยินดังนั้น ถางจึหลานจึงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง“วิญญาณยุทธ์ของเจ้าคือหญ้าเงินฟ้า ถึงแม้ว่ามันจะเหมือนกับเรื่องเล่าของผู้ก่อตั้งนิกายถาง แต่ว่าหญ้าเงินฟ้าถือว่าเป็นวิญญาณยุทธ์ที่ธรรมดามาก การที่จะฝึกฝนนั้นยากลำบากมาก เจ้าจะต้องพบเจอกับอุปสรรคหลายต่อหลายอย่าง เจ้าแน่ใจแล้วนะว่าเลือกที่จะเดินทางนี้?”

“อื้ม!ข้าจะต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณ หลังจากที่ข้าได้เป็นผู้ใช้วิญญาณแล้วก็จะหาเงินมาได้เยอะ ถึงตอนนั้นข้าจะได้ซื้อของดีๆให้กับท่านพ่อและท่านแม่”คำพูดของถางอู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยความความไร้เดียงสา ทำให้หลางเย่ที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับตาแดงก่ำ ลูกชายของนางนั้นฉลาดตั้งแต่เล็กทั้งยังเป็นเด็กที่ดีมาโดยตลอด

“งั้นก็ดี”ถางจึหลานพยักหน้า“ถ้าเจ้าเลือกแบบนั้น พ่อกับแม่ก็จะคอยสนับสนุนเจ้า แต่ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ก็แค่บอกพ่อ แล้วพ่อจะช่วยเจ้าย้ายห้อง ลูก เจ้าจำเอาไว้นะ จริงๆแล้วพ่อกับแม่ไม่เคยต้องการที่จะให้เจ้าประสบความสำเร็จ แค่เจ้ามีความสุขอยู่แบบนี้พวกเราก็พอใจแล้ว ในหัวใจของพวกเราไม่มีอะไรที่มันจะสำคัญไปมากกว่านี้อีกแล้ว เจ้าเข้าใจหรือเปล่า?”

ถางอู่หลินหัวเราะฮี่ฮี่“ตอนนี้ข้าก็มีความสุขมากอยู่แล้ว!”

นอกจากเรื่องกินแล้ว ถางอู่หลินก็เหมือนจะนอนเยอะกว่าแต่ก่อน ไม่นานนักเขาก็เข้านอนอย่างรวดเร็ว

เช้าวันที่สอง เขาก็ถูกพ่อปลุกให้ตื่นขึ้น วันนี้เป็นวันที่จะต้องไปเข้าเรียน เขาได้เข้าสู่โรงเรียนหงซาน(*แอดขอเปลี่ยนจากสำนักเป็นโรงเรียนนะครับ)อย่างเป็นทางการ ทั้งยังได้อยู่ในห้องเรียนผู้ใช้วิญญาณและจะต้องเรียนต่อไปอีกเก้าปี

ตามบทบัญญัติรัฐบาลกลางสุริยันจันทราการศึกษาของภาคชั้นอนุบาลและประถมศึกษาจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในระดับชั้นของโรงเรียนธรรมดา หากต้องการที่จะเข้าโรงเรียนที่มีระดับสูงกว่านี้จะต้องใช้คะแนนที่ดีเยี่ยม ไม่เช่นนั้นก็ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่

ถางจึหลานได้พาอู่หลินมาส่งที่หน้าประตูโรงเรียนก่อนที่เขาจะกลับไป โรงเรียนนี้อยู่ห่างจากบ้านของเขาไม่มาก หลังจากที่เขาส่งลูกชายเสร็จ เขาก็กลับไปทำงานในทันที

ห้องเรียนผู้ใช้วิญญาณจะมีอาจารย์เฉพาะมารอรับนักเรียนอยู่หน้าประตู ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความพิเศษที่มีมากกว่าห้องเรียนธรรมดาหลายเท่าตัว

ชั้นเรียนธรรมดาจะมีการเรียนการสอนปกติ  แต่ห้องเรียนผู้ใช้วิญญาณนั้นแตกต่างกันออกไป พวกเขาจะมีอาจารย์ที่คอยแนะแนวให้แก่นักเรียนที่มีพลังวิญญาณเพื่อที่จะเป็นผู้ใช้วิญญาณในอนาคต และเตรียมความรู้ขั้นพื้นฐานของผู้ใช้วิญญาณเอาไว้เพื่อใช้เข้าเรียนในชั้นประถม

ห้องเรียนผู้ใช้วิญญาณมีเด็กนักเรียนอยู่แค่สิบห้าคนเท่านั้น แต่ถ้าเทียบกับเมืองอ้าวหลายก็ถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อย

“เฮ้ วิญญาณยุทธ์ของเจ้าคืออะไร?”เด็กชายร่างอ้วนท้วมคนหนึ่งเดินมาใกล้ๆพลางถามถางอู่หลินขึ้น

เด็กส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กที่มีอายุเท่าๆกันพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ถางอู่หลินกล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ:“หญ้าเงินฟ้าเหมือนกับผู้ก่อตั้งนิกายถาง” เขากล่าวพลางยื่นมือขวาออกมา ภายในฝ่ามือของเขาปรากฏแสงสีฟ้าขึ้น ก่อนที่จะมีหญ้าเงินฟ้าปรากฏออกมา แต่ที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นก็คือหญ้าเงินฟ้านี้ไม่เหมือนกับเมื่อวาน ตรงส่วนรากของมันมีแสงสีทองอ่อนๆ หากไม่สังเกตดูดีๆก็ไม่อาจเห็นได้

“เหอะ——”เด็กอ้วนกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส“หญ้าเงินฟ้า!วิญญาณยุทธ์ขยะนี่”เมื่อพูดจบ เขาก็หันหัวพลางเดินออกไป

ได้ยินดังนั้น ถางอู่หลินก็กล่าวออกมาอย่างไม่พอใจนัก“แล้วเจ้าล่ะ?วิญญาณยุทธ์ของเจ้าคืออะไร?”

เด็กอ้วนส่งเสียงหึ ก่อนที่จะมีแสงเย็นสว่างวาบออกมาจากมือขวา ทันใดนนั้นก็ปรากฏมีดสั้นเล่มหนึ่งขึ้นที่ฝ่ามือของเขา

“เห็นหรือยัง วิญญาณยุทธ์ของข้าก็คือมีด ในภายหลังข้าจะสามารถฝึกฝนให้กลายมาเป็นสัญลักษณ์โตวหลัวหรือเรียกอีกอย่างว่ามีดสวรรค์โตวหลัว พลังวิญญาณเบิกฟ้าระดับห้า หญ้าเงินฟ้าของเจ้าแค่ข้าฟันไปมั่วๆก็แหลกเป็นเสี่ยงๆแล้วมั้ง”

เมื่อเห็นมีดสั้นที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาก็กลับมามองดูหญ้าเงินฟ้าที่อยู่ภายในฝ่ามือของตน ในตอนนั้นเองถางอู่หลินก็นึกถึงคำพูดของพ่อที่พูดเอาไว้เมื่อคืน

หญ้าเงินฟ้าที่จะฝึกฝนให้กลายเป็นผู้ใช้วิญญาณจะยากลำบากขนาดนั้นจริงๆหรือ?

วิญญาณยุทธ์ของแต่ละคนต่างก็มีจุดเด่นไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณยุทธ์อะไร ต่างก็ดีกว่าหญ้าเงินฟ้าของเขามาก และเพราะวิญญาณยุทธ์ของเขาคือหญ้าเงินฟ้า ทำให้เพื่อนร่วมห้องในชั้นไม่ค่อยจะสนใจเขามากเท่าไหร่นัก

ข้าจะต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณให้ได้!ถางอู่หลินกำหมัดแน่น

“สวัสดีทุกคน ข้าคืออาจารย์ประจำชั้นของพวกเจ้า ข้ามีชื่อว่าหลินซีเมิ้ง หลังจากนี้อีกสามปี ข้าจะคอยสอนพวกเจ้าเกี่ยวกับพื้นฐานที่เกี่ยวข้องของผู้ใช้วิญญาณ ก่อนอื่น พวกเจ้าแนะนำตัวก่อนพร้อมกับบอกชื่อ、วิญญาณยุทธ์และระดับขั้นพลังพลังวิญญาณเบิกฟ้า”

นักเรียนมีเพียงแค่สิบห้าคนทำให้การแนะนำตัวผ่านไปไวมาก เมื่อหลินซีเมิ้งได้ยินถางอู่หลินแนะนำตัวเองแล้วบอกว่าวิญญาณยุทธ์ของเขาคือหญ้าเงินฟ้า นางเองก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไป ส่วนเด็กนักเรียนคนอื่นๆก็พลันส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นมา

ถางอู่หลินหน้าเริ่มแดงขึ้นภายในใจเต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชนขึ้น หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่ท่านพ่อบอกกัน?

หลินซีเมิ้งรีบปรับเปลี่ยนอารมภ์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่นางจะยิ้มและกล่าวออกมา“วันนี้เป็นวันแรกของการเข้าเรียน ข้าจะพูดถึงประเภทของวิญญาณยุทธ์ก่อน แล้วตอนบ่ายข้าจะสอนเรื่องการทำสมาธิ การทำสมาธิจะช่วยพัฒนาพลังวิญญาณของพวกเจ้าซึ่งเป็นเพียงวิธีเดียว หากอยากจะเป็นผู้ใช้วิญญาณแล้วล่ะก็ พวกเจ้าจะต้องขยันและหมั่นฝึกฝนเข้าไว้นะ”

“อย่างที่พวกเรารู้ๆกันว่าในโลกของพวกเรานั้น ทุกๆคนต่างก็มีวิญญาณยุทธ์เป็นของตัวเอง วิญญาณยุทธ์จะถูกปลุกขึ้นในตอนที่อายุหกขวบ มีบางคนที่มีพลังวิญญาณซึ่งสามารถฝึกฝนและกลายมาเป็นผู้ใช้วิญญาณได้ และนั่นก็คือพวกเจ้า เช่นนั้นแล้ววิญญาณยุทธ์แบ่งออกเป็นกี่ประเภทล่ะ?”

“วิญญาณยุทธ์จะแบ่งออกเป็นวิญญาณยุทธ์ประเภทอาวุธและวิญญาณยุทธ์ประเภทสัตว์ สองประเภทใหญ่วิญญาณยุทธ์ที่มีชีวิตก็คือวิญญาณยุทธ์สัตว์ วิญญาณยุทธ์ที่ไม่มีชีวิตก็คือวิญญาณยุทธ์อาวุธ เมื่อผ่านการฝึกฝนพลังวิญญาณ วิญญาณยุทธ์ก็จะพัฒนาขึ้น เมื่อระดับของพลังวิญญาณได้ทะลวงเข้าสู่ระดับสิบ ถึงตอนนั้นก็จะกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณได้”

“ผู้ใช้วิญญาณก็มีสองประเภทเหมือนกัน แบ่งเป็นผู้ใช้วิญญาณต่อสู้และผู้ใช้วิญญาณอาวุธ ผู้ใช้วิญญาณที่เน้นไปในเรื่องของการต่อสู้ก็คือผู้ใช้วิญญาณต่อสู้ ส่วนผู้ใช้วิญญาณที่ไม่ได้เน้นในเรื่องของการต่อสู้ก็คือผู้ใช้วิญญาณอาวุธ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณยุทธ์แบบไหนก็คือผู้ใช้วิญญาณ แล้วก็ยังมีประเภทยิบย่อยอีกมาก……”

เมื่อได้ยินหลินซีเมิ้งอธิบายประเภทของวิญญาณยุทธ์และผู้ใช้วิญญาณ ความโกรธภายในใจของถางอู่หลินก็ค่อยๆหายไป ตั้งแต่เล็กเขารู้สึกสงสัยในอาชีพของผู้ใช้วิญญาณเป็นอย่างมาก ความรู้พวกนี้ก็เป็นเหมือนกับประตูที่ได้เปิดเข้าไปสู่โลกอันงดงามของเขา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 3 : บ้านของอู่หลิน

ตอนที่ 6 : พานางกลับบ้าน