ตอนที่ 6 : พานางกลับบ้าน
“น่าน่า?เป็นชื่อที่เพราะมากเลย เสียงเจ้าก็เพราะมากด้วยเช่นกัน”ถางอู่หลินค่อยๆพยุงตัวของนางให้ลุกขึ้นมา
น่าน่าก้มหน้า พลางเงียบไม่พูดอะไร
“พ่อกับแม่ของเจ้าล่ะ?แล้วบ้านเจ้าอยู่ที่ไหน?”ถางอู่หลินถามขึ้น
น่าน่าส่ายหัว
“จ๊อกจ๊อก!”ทันใดนั้นก็ปรากฏเสียงประหลาดดังขึ้นมา
ถางอู่หลินรีบก้มลงไปมองดูที่ท้องของตน แต่ทว่ามันไม่ได้ดังออกมาจากท้องของเขา น่าน่าที่ก้มหน้าใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบฝุ่นมอมแมมแต่ถึงอย่างนั้นก็พอมองเห็นได้ว่าใบหน้าของนางเริ่มเป็นสีแดงขึ้นมาระเรื่อ
“เจ้าหิวหรอ?ถ้าเจ้าหาพ่อกับแม่ไม่เจอ งั้นไปที่บ้านของข้าก่อนก็ได้นะ ท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อยมากเลยล่ะ!”ถางอู่หลินพูดไปพลางจูงมือของน่าน่ามุ่งหน้าไปยังบ้านของตน
น่าน่าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา จากมุมมองของนาง นางมองเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของเขาเท่านั้นเพราะว่าได้ไปมีเรื่องกับเด็กหนุ่มเมื่อครู่ ทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง ขนตางอนยาว อีกทั้งดวงตาที่สวยงามคู่นั้นที่ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะมองจนเหมือนกับโดนสะกดเอาไว้
“ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว!”ยังไม่ได้เข้าไปภายในบ้าน ถางอู่หลินก็ตะโกนเสียงดังออกมา
“เจ้าเด็กคนนี้นี่ เงียบๆหน่อยสิ อย่ารบกวนเพื่อนบ้านเขา”หลางเย่กล่าวติเตียนออกมาก่อนที่จะเปิดประตู
“วันนี้ไปเรียนมาเป็นยังไงบ้าง?เห ทำไมเนื้อตัวถึงได้สกปรกแบบนี้ล่ะ?”หลางเย่เมื่อเห็นท่าทีที่มอมแมมของลูกชาย นางก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ในตอนนั้นเองนางก็สังเกตเห็นถางอู่หลินที่จูงมือน่าน่ามา
“ท่านแม่ ข้าเจอคนเลวด้วย”ถางอู่หลินกล่าวพลางเล่าเรื่องที่เขาเจอมาให้กับผู้เป็นแม่ฟัง
หลังจากที่ฟังเขาพูดจบ สีหน้าของหลางเย่พลันเปลี่ยนสี ก่อนที่จะพาถางอู่หลินและน่าน่าเข้ามาข้างใน
“เจ้านี่นะ ไม่รู้หรอว่ามันอันตราย?ทำไมเจ้าถึงได้……”หลางเย่หายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย นางรู้ว่าเด็กหนุ่มในเขตนี้ใจกล้าพอที่จะกล้าทำเรื่องอะไรบ้าๆ
ได้ยินดังนั้น ถางอู่หลินค้านออกมา“แต่ท่านพ่อบอกเอาไว้ว่า เป็นผู้ชายจะต้องกล้าหาญและต่อสู้กับคนเลว”
“เจ้า……”หลางเย่จ้องมองดวงตาที่แข็งแกร่งของลูกชาย แต่นางเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดตำหนิอะไรออกมา เขาผิดหรอ?แน่นอนว่าไม่ เขาทำถูกแล้ว แต่ว่าการที่เป็นแม่ นางจะไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชายได้ยังไงกันล่ะ!
ถางอู่หลินยิ้มออดอ้อนพลางกอดเข้าที่ขาของผู้เป็นแม่“ท่านแม่ ท่านอย่าโกรธไปเลย น่าน่าหิวแล้ว ข้าเองก็หิวเหมือนกัน ท่านช่วยทำอาหารอร่อยๆให้พวกเราหน่อยได้ไหม?”
เมื่อเห็นท่าทีที่น่ารักน่าเอ็นดูของลูกชาย หลางเย่ก็โกรธไม่ลง นางส่ายหัวไปมาก่อนที่จะมองไปที่น่าน่าที่เอาแต่ยืนเงียบพลางถามขึ้นมา“เด็กน้อย เจ้าชื่อว่าน่าน่าหรือ?แล้วพ่อกับแม่ของเจ้าล่ะ?”
และก็เหมือนกับทุกที น่าน่าส่ายหัวนางไม่พูดอะไรออกมาเลย
แม่ที่มีจิตใจดีจึงจะสามารถสอนลูกออกมาให้ดีได้ หลางเย่กล่าวออกมาว่า“สภาพมอมแมมขนาดนี้ งั้นเดี๋ยวข้าจะพาพวกเจ้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็แล้วกัน”
เด็กอายุห้าหกขวบ ซึ่งระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก หลางเย่นำลูกลิงทั้งสองเข้าไปที่ห้องน้ำพลางอาบน้ำล้างตัวให้กับพวกเขา
เมื่อถางอู่หลินถามแม่ขึ้นมาว่าทำไมน่าน่าถึงไม่เหมือนกับของตน หลางเย่ก็ได้แต่หัวเราะพลางไม่ตอบอะไร แต่น่าน่ากลับเขินอายและแอบอยู่ข้างหลังหลางเย่
“หวา น่าน่า เจ้าสวยมาก!”บนโต๊ะอาหาร ถางอู่หลินนำมือทั้งสองวางเอาไว้ที่คางพลางจ้องมองน่าน่าที่สวมชุดของเขาอยู่ข้างๆ
ถางอู่หลินสูงกว่าน่าน่าเท่าหนึ่ง น่าน่าที่สวมใส่เสื้อผ้าของเขาจึงดูหลวมเป็นพิเศษ แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อความสวยของน่าน่า
ผิวของนางขาวกว่าผิวของถางอู่หลิน ผิวสีอมชมพูที่มีหยดน้ำเกาะอยู่เล็กน้อยเพราะนางเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ กลิ่นหอมอ่อนๆลอยโชยออกมา ใบหน้าของนางเหมือนกับตุ๊กตาที่ทำมาจากกระเบื้อง
น่าน่าเงยหน้ามองไปที่เขาแต่นางก็ยังคงไม่กล่าวอะไร เหมือนกับว่านางไม่ค่อยที่จะชอบพูดอย่างไงอย่างนั้น
เพราะยังไม่ถึงเวลาอาหารค่ำ หลางเย่ก็เลยนำคุ๊กกี้สองจานและนมอีกสองแก้วมาให้เด็กๆที่หิวโหยทั้งสองกิน
น่าน่าถึงจะไม่ชอบพูด แต่เวลากินนั้นนางกินเข้าไปรวดเร็วเป็นอย่างมาก เวลาผ่านไปไม่นาน นางก็กินคุ๊กกี้และนมที่อยู่ตรงหน้าจนเรียบไม่มีเหลือ
ถึงถางอู่หลินจะหิว แต่ดูๆแล้วน่าน่าน่าจะหิวกว่าเขาหลายเท่า เพราะน่าน่าได้จ้องมองมายังคุ๊กกี้ที่อยู่บนจานของเขา ในตอนนั้นเขาก็เพิ่งรู้ว่าน่าน่าได้กินส่วนของตัวเองหมดไปแล้ว
“ข้าให้เจ้า”ถางอู่หลินเลื่อนจานคุ๊กกี้ของตนไปตรงหน้าของน่าน่า
น่าน่ามองไปที่เขาพลางส่ายหัว
“ไม่เป็นไร เจ้ากินเถอะ ตอนเที่ยงข้ากินมาเยอะแล้ว”ถางอู่หลินฉีกยิ้มออกมา
น่าน่าครุ่นคิดสักพักหนึ่ง ก่อนที่นางจะลงมือกินมันเข้าไป
หลางเย่เดินเข้ามาพลางนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะถามขึ้นมาว่า“น่าน่า เจ้าเป็นคนที่ไหน?แล้วบ้านของเจ้าอยู่ไหน?”
น่าน่าส่ายหัว
“แล้วรู้วิธีติดต่อกับครอบครัวรึเปล่า?อะไรก็ได้”
น่าน่าก็ยังส่ายหัวอยู่
เมื่อเห็นดังนั้น หลางเย่จึงถามขึ้นมา“เจ้าอายุเท่าไหร่?”
จนในที่สุดน่าน่าก็เอ่ยปากตอบออกมา“ห้าขวบครึ่ง”
“หวา งั้นข้าก็เป็นพี่นะสิ ข้าอายุมากกว่าเจ้า ข้าหน่ะหกขวบแล้ว”ถางอู่หลินกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
หลางเย่ถลึงตาใส่เขาพลางกล่าวออกมา“เดี๋ยวแม่จะพาน่าน่าลองไปถามเจ้าหน้าที่ดู ไม่รู้ว่าจะหาคนในครอบครัวของนางเจอหรือเปล่า เจ้าก็อยู่บ้านดีๆนะ เข้าใจไหม?”
“โอ้”ถางอู่หลินพยักหน้าพลางมองไปที่น่าน่า ไม่รู้ว่าทำไมภายในใจของเขารู้สึกเหมือนกับไม่อยากให้นางไป อาจจะเป็นเพราะนางสวยเกินไปล่ะมั้ง
หลางเย่พาน่าน่าออกจากบ้านไป น่าน่ายังคงไม่พูดอะไรพลางเดินออกไปพร้อมกับแม่ของถางอู่หลิน
ถางอู่หลินกลับเข้ามาที่ห้องของตัวเอง ภายในหัวคิดถึงเรื่องที่อาจารย์สอนในวันนี้ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจลองทำสมาธิดู
เขานั่งขัดสมาธิลง พลางทำจิตใจให้ว่าง และปล่อยวางซึ่งนั่นเป็นเป็นขั้นแรกของการทำสมาธิ
ภายในใจของงถางอู่หลินไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่นานนักร่างของเขาก็สงบนิ่ง เขาค่อยๆรับรู้ถึงจิตวิญญาณหญ้าเงินฟ้าที่อยู่ภายในร่าง เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ก็มีอยู่ การทำสมาธิเบื้องต้นทำมาได้ถึงขั้นนี้ก็พอแล้ว แค่สัมผัสถึงวิญญาณยุทธ์และพลังวิญญาณเพื่อให้ตนนั้นได้ใกล้ชิดกับพวกมัน หลังจากที่ทำขั้นตอนนี้สำเร็จถึงจะเริ่มดำเนินการทำสมาธิอย่างแท้จริง
ภายในจิตใจ หญ้าเงินฟ้าสั่นไหวไปมา ทันใดนั้นถางอู่หลินรู้สึกได้ทันที ราวกับตัวเองได้เข้ามายังโลกของหญ้าเงินฟ้า
มันอ่อนแอมากแต่ก็แข็งแกร่ง ราวกับสายลมหน้าร้อนที่กำลังจะพัดเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
น่าน่าก้มหน้า พลางเงียบไม่พูดอะไร
“พ่อกับแม่ของเจ้าล่ะ?แล้วบ้านเจ้าอยู่ที่ไหน?”ถางอู่หลินถามขึ้น
น่าน่าส่ายหัว
“จ๊อกจ๊อก!”ทันใดนั้นก็ปรากฏเสียงประหลาดดังขึ้นมา
ถางอู่หลินรีบก้มลงไปมองดูที่ท้องของตน แต่ทว่ามันไม่ได้ดังออกมาจากท้องของเขา น่าน่าที่ก้มหน้าใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบฝุ่นมอมแมมแต่ถึงอย่างนั้นก็พอมองเห็นได้ว่าใบหน้าของนางเริ่มเป็นสีแดงขึ้นมาระเรื่อ
“เจ้าหิวหรอ?ถ้าเจ้าหาพ่อกับแม่ไม่เจอ งั้นไปที่บ้านของข้าก่อนก็ได้นะ ท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อยมากเลยล่ะ!”ถางอู่หลินพูดไปพลางจูงมือของน่าน่ามุ่งหน้าไปยังบ้านของตน
น่าน่าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา จากมุมมองของนาง นางมองเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของเขาเท่านั้นเพราะว่าได้ไปมีเรื่องกับเด็กหนุ่มเมื่อครู่ ทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง ขนตางอนยาว อีกทั้งดวงตาที่สวยงามคู่นั้นที่ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะมองจนเหมือนกับโดนสะกดเอาไว้
“ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว!”ยังไม่ได้เข้าไปภายในบ้าน ถางอู่หลินก็ตะโกนเสียงดังออกมา
“เจ้าเด็กคนนี้นี่ เงียบๆหน่อยสิ อย่ารบกวนเพื่อนบ้านเขา”หลางเย่กล่าวติเตียนออกมาก่อนที่จะเปิดประตู
“วันนี้ไปเรียนมาเป็นยังไงบ้าง?เห ทำไมเนื้อตัวถึงได้สกปรกแบบนี้ล่ะ?”หลางเย่เมื่อเห็นท่าทีที่มอมแมมของลูกชาย นางก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ในตอนนั้นเองนางก็สังเกตเห็นถางอู่หลินที่จูงมือน่าน่ามา
“ท่านแม่ ข้าเจอคนเลวด้วย”ถางอู่หลินกล่าวพลางเล่าเรื่องที่เขาเจอมาให้กับผู้เป็นแม่ฟัง
หลังจากที่ฟังเขาพูดจบ สีหน้าของหลางเย่พลันเปลี่ยนสี ก่อนที่จะพาถางอู่หลินและน่าน่าเข้ามาข้างใน
“เจ้านี่นะ ไม่รู้หรอว่ามันอันตราย?ทำไมเจ้าถึงได้……”หลางเย่หายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย นางรู้ว่าเด็กหนุ่มในเขตนี้ใจกล้าพอที่จะกล้าทำเรื่องอะไรบ้าๆ
ได้ยินดังนั้น ถางอู่หลินค้านออกมา“แต่ท่านพ่อบอกเอาไว้ว่า เป็นผู้ชายจะต้องกล้าหาญและต่อสู้กับคนเลว”
“เจ้า……”หลางเย่จ้องมองดวงตาที่แข็งแกร่งของลูกชาย แต่นางเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดตำหนิอะไรออกมา เขาผิดหรอ?แน่นอนว่าไม่ เขาทำถูกแล้ว แต่ว่าการที่เป็นแม่ นางจะไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชายได้ยังไงกันล่ะ!
ถางอู่หลินยิ้มออดอ้อนพลางกอดเข้าที่ขาของผู้เป็นแม่“ท่านแม่ ท่านอย่าโกรธไปเลย น่าน่าหิวแล้ว ข้าเองก็หิวเหมือนกัน ท่านช่วยทำอาหารอร่อยๆให้พวกเราหน่อยได้ไหม?”
เมื่อเห็นท่าทีที่น่ารักน่าเอ็นดูของลูกชาย หลางเย่ก็โกรธไม่ลง นางส่ายหัวไปมาก่อนที่จะมองไปที่น่าน่าที่เอาแต่ยืนเงียบพลางถามขึ้นมา“เด็กน้อย เจ้าชื่อว่าน่าน่าหรือ?แล้วพ่อกับแม่ของเจ้าล่ะ?”
และก็เหมือนกับทุกที น่าน่าส่ายหัวนางไม่พูดอะไรออกมาเลย
แม่ที่มีจิตใจดีจึงจะสามารถสอนลูกออกมาให้ดีได้ หลางเย่กล่าวออกมาว่า“สภาพมอมแมมขนาดนี้ งั้นเดี๋ยวข้าจะพาพวกเจ้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็แล้วกัน”
เด็กอายุห้าหกขวบ ซึ่งระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก หลางเย่นำลูกลิงทั้งสองเข้าไปที่ห้องน้ำพลางอาบน้ำล้างตัวให้กับพวกเขา
เมื่อถางอู่หลินถามแม่ขึ้นมาว่าทำไมน่าน่าถึงไม่เหมือนกับของตน หลางเย่ก็ได้แต่หัวเราะพลางไม่ตอบอะไร แต่น่าน่ากลับเขินอายและแอบอยู่ข้างหลังหลางเย่
“หวา น่าน่า เจ้าสวยมาก!”บนโต๊ะอาหาร ถางอู่หลินนำมือทั้งสองวางเอาไว้ที่คางพลางจ้องมองน่าน่าที่สวมชุดของเขาอยู่ข้างๆ
ถางอู่หลินสูงกว่าน่าน่าเท่าหนึ่ง น่าน่าที่สวมใส่เสื้อผ้าของเขาจึงดูหลวมเป็นพิเศษ แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อความสวยของน่าน่า
ผิวของนางขาวกว่าผิวของถางอู่หลิน ผิวสีอมชมพูที่มีหยดน้ำเกาะอยู่เล็กน้อยเพราะนางเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ กลิ่นหอมอ่อนๆลอยโชยออกมา ใบหน้าของนางเหมือนกับตุ๊กตาที่ทำมาจากกระเบื้อง
น่าน่าเงยหน้ามองไปที่เขาแต่นางก็ยังคงไม่กล่าวอะไร เหมือนกับว่านางไม่ค่อยที่จะชอบพูดอย่างไงอย่างนั้น
เพราะยังไม่ถึงเวลาอาหารค่ำ หลางเย่ก็เลยนำคุ๊กกี้สองจานและนมอีกสองแก้วมาให้เด็กๆที่หิวโหยทั้งสองกิน
น่าน่าถึงจะไม่ชอบพูด แต่เวลากินนั้นนางกินเข้าไปรวดเร็วเป็นอย่างมาก เวลาผ่านไปไม่นาน นางก็กินคุ๊กกี้และนมที่อยู่ตรงหน้าจนเรียบไม่มีเหลือ
ถึงถางอู่หลินจะหิว แต่ดูๆแล้วน่าน่าน่าจะหิวกว่าเขาหลายเท่า เพราะน่าน่าได้จ้องมองมายังคุ๊กกี้ที่อยู่บนจานของเขา ในตอนนั้นเขาก็เพิ่งรู้ว่าน่าน่าได้กินส่วนของตัวเองหมดไปแล้ว
“ข้าให้เจ้า”ถางอู่หลินเลื่อนจานคุ๊กกี้ของตนไปตรงหน้าของน่าน่า
น่าน่ามองไปที่เขาพลางส่ายหัว
“ไม่เป็นไร เจ้ากินเถอะ ตอนเที่ยงข้ากินมาเยอะแล้ว”ถางอู่หลินฉีกยิ้มออกมา
น่าน่าครุ่นคิดสักพักหนึ่ง ก่อนที่นางจะลงมือกินมันเข้าไป
หลางเย่เดินเข้ามาพลางนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะถามขึ้นมาว่า“น่าน่า เจ้าเป็นคนที่ไหน?แล้วบ้านของเจ้าอยู่ไหน?”
น่าน่าส่ายหัว
“แล้วรู้วิธีติดต่อกับครอบครัวรึเปล่า?อะไรก็ได้”
น่าน่าก็ยังส่ายหัวอยู่
เมื่อเห็นดังนั้น หลางเย่จึงถามขึ้นมา“เจ้าอายุเท่าไหร่?”
จนในที่สุดน่าน่าก็เอ่ยปากตอบออกมา“ห้าขวบครึ่ง”
“หวา งั้นข้าก็เป็นพี่นะสิ ข้าอายุมากกว่าเจ้า ข้าหน่ะหกขวบแล้ว”ถางอู่หลินกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
หลางเย่ถลึงตาใส่เขาพลางกล่าวออกมา“เดี๋ยวแม่จะพาน่าน่าลองไปถามเจ้าหน้าที่ดู ไม่รู้ว่าจะหาคนในครอบครัวของนางเจอหรือเปล่า เจ้าก็อยู่บ้านดีๆนะ เข้าใจไหม?”
“โอ้”ถางอู่หลินพยักหน้าพลางมองไปที่น่าน่า ไม่รู้ว่าทำไมภายในใจของเขารู้สึกเหมือนกับไม่อยากให้นางไป อาจจะเป็นเพราะนางสวยเกินไปล่ะมั้ง
หลางเย่พาน่าน่าออกจากบ้านไป น่าน่ายังคงไม่พูดอะไรพลางเดินออกไปพร้อมกับแม่ของถางอู่หลิน
ถางอู่หลินกลับเข้ามาที่ห้องของตัวเอง ภายในหัวคิดถึงเรื่องที่อาจารย์สอนในวันนี้ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจลองทำสมาธิดู
เขานั่งขัดสมาธิลง พลางทำจิตใจให้ว่าง และปล่อยวางซึ่งนั่นเป็นเป็นขั้นแรกของการทำสมาธิ
ภายในใจของงถางอู่หลินไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่นานนักร่างของเขาก็สงบนิ่ง เขาค่อยๆรับรู้ถึงจิตวิญญาณหญ้าเงินฟ้าที่อยู่ภายในร่าง เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ก็มีอยู่ การทำสมาธิเบื้องต้นทำมาได้ถึงขั้นนี้ก็พอแล้ว แค่สัมผัสถึงวิญญาณยุทธ์และพลังวิญญาณเพื่อให้ตนนั้นได้ใกล้ชิดกับพวกมัน หลังจากที่ทำขั้นตอนนี้สำเร็จถึงจะเริ่มดำเนินการทำสมาธิอย่างแท้จริง
ภายในจิตใจ หญ้าเงินฟ้าสั่นไหวไปมา ทันใดนั้นถางอู่หลินรู้สึกได้ทันที ราวกับตัวเองได้เข้ามายังโลกของหญ้าเงินฟ้า
มันอ่อนแอมากแต่ก็แข็งแกร่ง ราวกับสายลมหน้าร้อนที่กำลังจะพัดเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น