ตอนที่ 7 : มาเป็นน้องสาวของข้าเถอะ
ตอนที่ 7 : มาเป็นน้องสาวของข้าเถอะ
เขาที่ยืนอยู่ภายในโลกของหญ้าเงินฟ้า ถางอู่หลินได้ยินเสียงหลายต่อหลายอย่าง เสียงพวกนั้นเบาบางมากเหมือนกับไม่ได้มีอยู่
หญ้าเงินฟ้าที่อ่อนไหวแต่มันกลับมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง พวกมันจำนวนมากที่อยู่แผ่นดินนี้มานานราวกับอยู่มาหลายหมื่นปี
ความแข็งแกร่งที่ทรงพลังเหมือนกับวิญญาณสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ แต่หญ้าเงินฟ้ากลับยังคงอยู่มีอยู่เหมือนกับหมื่นปีก่อน มันได้ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนดิน
ความรู้สึกที่บางเบาทำให้ถางอู่หลินรู้สึกเหมือนกับมีอะไรเล็กๆบางอย่างไหล่เข้ามาภายในร่าง มันที่ผสานเข้ากับพลังวิญญาณที่สุดแสนจะอ่อนแอของเขา ถึงจะไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไหร่นักแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของตนนั้นเริ่มค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทีละนิดทีละหน่อย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วถางอู่หลินก็ตื่นขึ้นมาจากการทำสมาธิ ความรู้สึกที่เย็นสบายแผ่ซ่านไปทั่วร่างเหมือนกับเขาได้ถูกหญ้าเงินฟ้าจำนวนมากปกคลุมเอาไว้
ทว่าจู่ๆเขาก็ตกใจสะดุ้งตัวโหยงขึ้นมา เพราะเขาเห็นพ่อนั่งอยู่ตรงหน้าของเขา
“ท่านพ่อ ทำไมถึงกลับมาเร็วจังเลยล่ะ?”ถางอู่หลินจ้องมองไปที่ถางจึหลานพลางกล่าวถามขึ้น
เมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย ถางจึหลานจึงยิ้มออกมาบางๆ“ไม่เร็วนะ ฟ้ามืดแล้ว เจ้าเรียนการทำสมาธิแล้วอย่างนั้นหรอ?ดูเหมือนว่าการเรียนการสอนของโรงเรียนหงซานนี่ไม่เลวเลยนะ!”
ถางอู่หลินกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น“ใช่!เหมือนกับว่าข้าทำมันได้แล้วด้วย ท่านป่า เมื่อครู่ข้ารู้สึกเหมือนกับมีอะไรบางอย่างเล็กๆผสานเข้าไปในร่างของข้า หลังจากนั้นพลังวิญญาณของข้าก็แข็งแกร่งมากขึ้น นี่ถือว่าข้าทำสมาธิได้แล้วอย่างนั้นใช่มั้ย?”
ถางจึหลานตกใจไม่น้อย เวลาแค่วันเดียวก็สามารถทำสมาธิได้แล้วอย่างนั้นหรือ?สิ่งที่ลูกชายของเขากล่าวออกมานั้น นั่นเป็นการทำสมาธิโดยแท้จริง!ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ……
“ใช่แล้ว เจ้าทำได้ ดูเหมือนว่าลูกชายของข้าจะเรียนรู้ได้ไวไม่เบาเลย!”ถางจึหลานไม่เคยชื่นชมยกยอลูกชายของตนมาก่อน จากที่เขาคิด การเติบโตของเด็กชายคนหนึ่งบางทีก็ควรที่จะมีการชื่นชมยกยอเขาบ้าง ซึ่งความเชื่อมั่นเป็นสำหรับเด็กแล้วเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
ถางอู่หลินที่ถูกพ่อชื่อชมเขาก็พลันรู้สึกภูมิใจขึ้นมาไม่น้อย แต่ยังไม่ทันทีเขาจะพูดอะไรต่อ สีหน้าของถางจึหลานก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจังขึ้นมา
“ลูกชาย พ่อมีเรื่องอยากจะถามเจ้า”
น้อยครั้งที่ถางอู่หลินจะเห็นพ่อของเขาแสดงสีหน้าแบบนี้“มีอะไรหรอท่านพ่อ?ข้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ?ท่านพ่อเคยบอกว่าเป็นผู้ชายต้องกล้าหาญและต่อสู้กับคนเลว อีกทั้ง วันนั้นที่โรงเรียนพวกเขาก็เอาแต่หัวเราะหญ้าเงินฟ้าของข้า ข้าก็ไม่ได้เอาเรื่องหรือทะเลาะอะไรกับพวกเขาเลย”
ได้ยินดังนั้น ถางจึหลานจึงกล่าวขึ้นมา“ความกล้าหาญนั้นไม่ผิด แต่ความกล้าก็ต้องอยู่คู่กับความฉลาด ถ้าเจ้ารู้ว่าเจ้าไม่อาจจะช่วยเหลือคนที่อยู่ตรงหน้าได้ เจ้าก็ควรจะวิ่งไปหาความช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่ากระโดดพุ่งเข้าไปแบบนั้น ถ้าหากว่าเจ้าไม่ได้แสดงวิญญาณยุทธ์ออกมาทำให้พวกเขากลัวแล้ววิ่งหนีไป เจ้าก็จะเป็นคนที่ตกอยู่ในอันตรายเสียเองซึ่งนั่นเขาไม่ได้ว่ากล้าหาญแต่เรียกว่าประมาท”
ถางอู่หลินครุ่นคิดในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูดก่อนที่สุดท้ายแล้วเขาจะก้มหน้าลงพลางกล่าวออกมา“ท่านพ่อ ข้าผิดไปแล้ว”
ถางจึหลานยิ้มออกมา ลูกชายที่ยอมรับผิดนั่นหมายถึงว่าเขาตระหนักถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจริงๆ 儿
“ลูกผู้ชายจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำสองนะ”
“อื้ม”ถางอู่หลินพยักหน้า
ถางจึหลานคลี่ยิ้มออกมา“ดีงั้นพวกเราไปคุยเรื่องปัญหาต่อไป”
ได้ยินดังนั้น ถางอู่หลินถึงกับกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ“ยังมีปัญหาอื่นอีกหรอ?”
ถางจึหลานหัวเราะพลางกล่าวออกมา“แน่นอน เจ้าเพิ่งจะอายุหกขวบ แต่ดันพาเด็กผู้หญิงมาที่บ้านเสียได้ ถ้าโตขึ้นไปจะเป็นยังไงนะ อีกทั้งยังเป็นฮีโร่ช่วยสาวสวยเอาไว้อีก เจ้านี่ไม่เบาเลยจริงๆ!”
ถางอู่หลินพลันคิดถึงเรื่องของน่าน่าขึ้นมา เขารีบกล่าวถามออกไปในทันที“ท่านพ่อ น่าน่าหาบ้านเจอหรือยัง?นางสวยมากเลย”
ถางจึหลานส่ายหัว“แม่ของเจ้าพานางไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ดูแล้ว แต่กลับไม่มีบันทึกของนางอยู่เลย”
ประโยคท่ีผู้เป็นพ่อกล่าวออกมาทำให้ถางอู่หลินตกใจมาก เขากล่าวออกมาด้วยความร้อนรนว่า“งั้นจะทำยังไงดี?”
“เจ้ามาถามพ่อ แล้วพ่อจะทำยังไงล่ะ?”ถางจึหลานกล่าว
ถางอู่หลินครุ่นคิดสักพักก่อนจะกล่าวออกมา“ท่านพ่อ งั้นให้นางมาอยู่กับพวกเราดีไหม?”
“บ้านของพวกเรา?พ่อกับแม่ดูแลเด็กสองคนไม่ไหวหรอกนะ!”ถางจึหลานกล่าวพลางทำท่าทีเหมือนจะหัวเราะแต่ก็ไม่หัวเราะ
ได้ยินดังนั้น ถางอู่หลินรีบกล่าวขึ้นมาในทันที“ข้าดูแลนางได้หลังจากที่ข้าเลิกเรียน”
ถางจึหลานยิ้ม“งั้นก็ดี กินข้าวกันก่อนเถอะ”
เมื่อมาถึงที่ห้องนั่งเล่น ถางอู่หลินจ้องมองไปที่น่าน่าที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วเข้าหากัน
“น่าน่า!”ถางอู่หลินเรียกพลางวิ่งเข้าไปหาน่าน่าพลางดึงมือเล็กๆสีขาวนวลของนางเอาไว้
หลางเย่ที่เห็นถางอู่หลินวิ่งเข้ามา นางจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบายใจนัก“หาบันทึกของเด็กคนนี้ไม่เจอเลย คงจะต้องส่งไปที่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วล่ะ”
“ไม่เอานะ!ท่านแม่ ให้น่าน่าอยู่นี่เถอะ”ถางอู่หลินอ้าแขนทั้งสองกันร่างของน่าน่าเอาไว้“อย่าส่งนางไปที่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าเลยนะ ให้นางอยู่นี่ไม่ได้หรอ?ข้าจะกินข้าวให้น้อยลง”
น่าน่าเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองร่างของถางอู่หลินที่อยู่ตรงหน้า ถึงร่างกายของเขาจะไม่ได้ใหญ่โต แต่เมื่อนางเห็นเขาที่พยายามจะปกป้องตนแบบนั้นทำให้ดวงตาของน่าน่าแดงก่ำอย่างอดไม่ได้
“หลินหลิน เจ้าจะมาออกปากแทนคนอื่นไม่ได้นะ เจ้าจะต้องถามน่าน่า ว่านางต้องการที่จะอยู่ที่บ้านของพวกเราหรือต้องการที่จะไปสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า!”หลางเย่กล่าว
ถางอู่หลินรีบหมุนตัวกลับมา เขามองไปที่น่าน่าพลางพูดขึ้น“น่าน่า อยู่ที่บ้านข้าเถอะนะ ท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อยมากๆ ท่านพ่อของข้าเองก็ใจดีมากๆด้วย เจ้าสามารถอยู่ด้วยกันกับข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ข้าอยากจะมีน้องสาวมาโดยตลอด เจ้ามาเป็นน้องสาวของข้านะ ตกลงมั้ย?”
“อื้ม”ครั้งนี้น่าน่าพยักหน้าออกมาด้วยความเต็มใจ
“ว้าว สุดยอดไปเลย ข้ามีน้องสาวแล้ว”ถางอู่หลินกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ความหิวโหยของเด็กๆไม่ใช่สิ่งที่ตนจะควบคุมได้ วันนี้หลางเย่ได้ทำอาหารมากกว่าปกติแต่ก็ยังไม่พอให้จอมตระกละทั้งสองกินอื่ม ใช่แล้ว จอมตระกละทั้งสอง ไม่ใช่แค่ถางอู่หลิน น่าน่าที่ดูตัวเล็กร่างบางแต่นางเองก็กินเก่งไม่แพ้กัน นางกินน้อยกว่าถางอู่หลินแค่ไม่เท่าไหร่ ในส่วนของทั้งสองรวมกัน ทำให้ข้าวในส่วนที่หลางเย่เตรียมให้ถางจึหลานในการทำงานของวันที่สองก็ได้หมดลงไป แต่เด็กทั้งสองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะอิ่มเลย
ภายในบ้านมีอยู่สองห้อง น่าน่าที่มาอยู่ก็ต้องไปอยู่กับถางอู่หลิน ถางจึหลานและถางอู่หลินสองพ่อลูกได้นำเตียงไม้อีกเตียงหนึ่งมาวางเอาไว้ตรงกลางห้อง
น่าน่าที่ดูจะเหนื่อยมาก ไม่นานนักนางก็ผล็อยหลับไป
“ท่านพ่อ ข้าไปทำสมาธิก่อนนะ”ถางอู่หลินรู้สึกพอใจกับการทำสมาธิมาก เขาอดไม่ไหวที่จะสัมผัสความรู้สึกนั้นอีกครั้ง เขาต้องการที่จะเป็นผู้ใช้วิญญาณ และอีกเหตุผลที่เพิ่มขึ้นมาก็คือเขาจะต้องปกป้องน้องสาวของเขา
เขาที่ยืนอยู่ภายในโลกของหญ้าเงินฟ้า ถางอู่หลินได้ยินเสียงหลายต่อหลายอย่าง เสียงพวกนั้นเบาบางมากเหมือนกับไม่ได้มีอยู่
หญ้าเงินฟ้าที่อ่อนไหวแต่มันกลับมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง พวกมันจำนวนมากที่อยู่แผ่นดินนี้มานานราวกับอยู่มาหลายหมื่นปี
ความแข็งแกร่งที่ทรงพลังเหมือนกับวิญญาณสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ แต่หญ้าเงินฟ้ากลับยังคงอยู่มีอยู่เหมือนกับหมื่นปีก่อน มันได้ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนดิน
ความรู้สึกที่บางเบาทำให้ถางอู่หลินรู้สึกเหมือนกับมีอะไรเล็กๆบางอย่างไหล่เข้ามาภายในร่าง มันที่ผสานเข้ากับพลังวิญญาณที่สุดแสนจะอ่อนแอของเขา ถึงจะไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไหร่นักแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของตนนั้นเริ่มค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทีละนิดทีละหน่อย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วถางอู่หลินก็ตื่นขึ้นมาจากการทำสมาธิ ความรู้สึกที่เย็นสบายแผ่ซ่านไปทั่วร่างเหมือนกับเขาได้ถูกหญ้าเงินฟ้าจำนวนมากปกคลุมเอาไว้
ทว่าจู่ๆเขาก็ตกใจสะดุ้งตัวโหยงขึ้นมา เพราะเขาเห็นพ่อนั่งอยู่ตรงหน้าของเขา
“ท่านพ่อ ทำไมถึงกลับมาเร็วจังเลยล่ะ?”ถางอู่หลินจ้องมองไปที่ถางจึหลานพลางกล่าวถามขึ้น
เมื่อเห็นท่าทีของลูกชาย ถางจึหลานจึงยิ้มออกมาบางๆ“ไม่เร็วนะ ฟ้ามืดแล้ว เจ้าเรียนการทำสมาธิแล้วอย่างนั้นหรอ?ดูเหมือนว่าการเรียนการสอนของโรงเรียนหงซานนี่ไม่เลวเลยนะ!”
ถางอู่หลินกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น“ใช่!เหมือนกับว่าข้าทำมันได้แล้วด้วย ท่านป่า เมื่อครู่ข้ารู้สึกเหมือนกับมีอะไรบางอย่างเล็กๆผสานเข้าไปในร่างของข้า หลังจากนั้นพลังวิญญาณของข้าก็แข็งแกร่งมากขึ้น นี่ถือว่าข้าทำสมาธิได้แล้วอย่างนั้นใช่มั้ย?”
ถางจึหลานตกใจไม่น้อย เวลาแค่วันเดียวก็สามารถทำสมาธิได้แล้วอย่างนั้นหรือ?สิ่งที่ลูกชายของเขากล่าวออกมานั้น นั่นเป็นการทำสมาธิโดยแท้จริง!ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ……
“ใช่แล้ว เจ้าทำได้ ดูเหมือนว่าลูกชายของข้าจะเรียนรู้ได้ไวไม่เบาเลย!”ถางจึหลานไม่เคยชื่นชมยกยอลูกชายของตนมาก่อน จากที่เขาคิด การเติบโตของเด็กชายคนหนึ่งบางทีก็ควรที่จะมีการชื่นชมยกยอเขาบ้าง ซึ่งความเชื่อมั่นเป็นสำหรับเด็กแล้วเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
ถางอู่หลินที่ถูกพ่อชื่อชมเขาก็พลันรู้สึกภูมิใจขึ้นมาไม่น้อย แต่ยังไม่ทันทีเขาจะพูดอะไรต่อ สีหน้าของถางจึหลานก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจังขึ้นมา
“ลูกชาย พ่อมีเรื่องอยากจะถามเจ้า”
น้อยครั้งที่ถางอู่หลินจะเห็นพ่อของเขาแสดงสีหน้าแบบนี้“มีอะไรหรอท่านพ่อ?ข้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ?ท่านพ่อเคยบอกว่าเป็นผู้ชายต้องกล้าหาญและต่อสู้กับคนเลว อีกทั้ง วันนั้นที่โรงเรียนพวกเขาก็เอาแต่หัวเราะหญ้าเงินฟ้าของข้า ข้าก็ไม่ได้เอาเรื่องหรือทะเลาะอะไรกับพวกเขาเลย”
ได้ยินดังนั้น ถางจึหลานจึงกล่าวขึ้นมา“ความกล้าหาญนั้นไม่ผิด แต่ความกล้าก็ต้องอยู่คู่กับความฉลาด ถ้าเจ้ารู้ว่าเจ้าไม่อาจจะช่วยเหลือคนที่อยู่ตรงหน้าได้ เจ้าก็ควรจะวิ่งไปหาความช่วยเหลือ ไม่ใช่ว่ากระโดดพุ่งเข้าไปแบบนั้น ถ้าหากว่าเจ้าไม่ได้แสดงวิญญาณยุทธ์ออกมาทำให้พวกเขากลัวแล้ววิ่งหนีไป เจ้าก็จะเป็นคนที่ตกอยู่ในอันตรายเสียเองซึ่งนั่นเขาไม่ได้ว่ากล้าหาญแต่เรียกว่าประมาท”
ถางอู่หลินครุ่นคิดในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูดก่อนที่สุดท้ายแล้วเขาจะก้มหน้าลงพลางกล่าวออกมา“ท่านพ่อ ข้าผิดไปแล้ว”
ถางจึหลานยิ้มออกมา ลูกชายที่ยอมรับผิดนั่นหมายถึงว่าเขาตระหนักถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจริงๆ 儿
“ลูกผู้ชายจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำสองนะ”
“อื้ม”ถางอู่หลินพยักหน้า
ถางจึหลานคลี่ยิ้มออกมา“ดีงั้นพวกเราไปคุยเรื่องปัญหาต่อไป”
ได้ยินดังนั้น ถางอู่หลินถึงกับกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ“ยังมีปัญหาอื่นอีกหรอ?”
ถางจึหลานหัวเราะพลางกล่าวออกมา“แน่นอน เจ้าเพิ่งจะอายุหกขวบ แต่ดันพาเด็กผู้หญิงมาที่บ้านเสียได้ ถ้าโตขึ้นไปจะเป็นยังไงนะ อีกทั้งยังเป็นฮีโร่ช่วยสาวสวยเอาไว้อีก เจ้านี่ไม่เบาเลยจริงๆ!”
ถางอู่หลินพลันคิดถึงเรื่องของน่าน่าขึ้นมา เขารีบกล่าวถามออกไปในทันที“ท่านพ่อ น่าน่าหาบ้านเจอหรือยัง?นางสวยมากเลย”
ถางจึหลานส่ายหัว“แม่ของเจ้าพานางไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ดูแล้ว แต่กลับไม่มีบันทึกของนางอยู่เลย”
ประโยคท่ีผู้เป็นพ่อกล่าวออกมาทำให้ถางอู่หลินตกใจมาก เขากล่าวออกมาด้วยความร้อนรนว่า“งั้นจะทำยังไงดี?”
“เจ้ามาถามพ่อ แล้วพ่อจะทำยังไงล่ะ?”ถางจึหลานกล่าว
ถางอู่หลินครุ่นคิดสักพักก่อนจะกล่าวออกมา“ท่านพ่อ งั้นให้นางมาอยู่กับพวกเราดีไหม?”
“บ้านของพวกเรา?พ่อกับแม่ดูแลเด็กสองคนไม่ไหวหรอกนะ!”ถางจึหลานกล่าวพลางทำท่าทีเหมือนจะหัวเราะแต่ก็ไม่หัวเราะ
ได้ยินดังนั้น ถางอู่หลินรีบกล่าวขึ้นมาในทันที“ข้าดูแลนางได้หลังจากที่ข้าเลิกเรียน”
ถางจึหลานยิ้ม“งั้นก็ดี กินข้าวกันก่อนเถอะ”
เมื่อมาถึงที่ห้องนั่งเล่น ถางอู่หลินจ้องมองไปที่น่าน่าที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วเข้าหากัน
“น่าน่า!”ถางอู่หลินเรียกพลางวิ่งเข้าไปหาน่าน่าพลางดึงมือเล็กๆสีขาวนวลของนางเอาไว้
หลางเย่ที่เห็นถางอู่หลินวิ่งเข้ามา นางจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบายใจนัก“หาบันทึกของเด็กคนนี้ไม่เจอเลย คงจะต้องส่งไปที่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วล่ะ”
“ไม่เอานะ!ท่านแม่ ให้น่าน่าอยู่นี่เถอะ”ถางอู่หลินอ้าแขนทั้งสองกันร่างของน่าน่าเอาไว้“อย่าส่งนางไปที่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าเลยนะ ให้นางอยู่นี่ไม่ได้หรอ?ข้าจะกินข้าวให้น้อยลง”
น่าน่าเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองร่างของถางอู่หลินที่อยู่ตรงหน้า ถึงร่างกายของเขาจะไม่ได้ใหญ่โต แต่เมื่อนางเห็นเขาที่พยายามจะปกป้องตนแบบนั้นทำให้ดวงตาของน่าน่าแดงก่ำอย่างอดไม่ได้
“หลินหลิน เจ้าจะมาออกปากแทนคนอื่นไม่ได้นะ เจ้าจะต้องถามน่าน่า ว่านางต้องการที่จะอยู่ที่บ้านของพวกเราหรือต้องการที่จะไปสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า!”หลางเย่กล่าว
ถางอู่หลินรีบหมุนตัวกลับมา เขามองไปที่น่าน่าพลางพูดขึ้น“น่าน่า อยู่ที่บ้านข้าเถอะนะ ท่านแม่ของข้าทำอาหารอร่อยมากๆ ท่านพ่อของข้าเองก็ใจดีมากๆด้วย เจ้าสามารถอยู่ด้วยกันกับข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ข้าอยากจะมีน้องสาวมาโดยตลอด เจ้ามาเป็นน้องสาวของข้านะ ตกลงมั้ย?”
“อื้ม”ครั้งนี้น่าน่าพยักหน้าออกมาด้วยความเต็มใจ
“ว้าว สุดยอดไปเลย ข้ามีน้องสาวแล้ว”ถางอู่หลินกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ความหิวโหยของเด็กๆไม่ใช่สิ่งที่ตนจะควบคุมได้ วันนี้หลางเย่ได้ทำอาหารมากกว่าปกติแต่ก็ยังไม่พอให้จอมตระกละทั้งสองกินอื่ม ใช่แล้ว จอมตระกละทั้งสอง ไม่ใช่แค่ถางอู่หลิน น่าน่าที่ดูตัวเล็กร่างบางแต่นางเองก็กินเก่งไม่แพ้กัน นางกินน้อยกว่าถางอู่หลินแค่ไม่เท่าไหร่ ในส่วนของทั้งสองรวมกัน ทำให้ข้าวในส่วนที่หลางเย่เตรียมให้ถางจึหลานในการทำงานของวันที่สองก็ได้หมดลงไป แต่เด็กทั้งสองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะอิ่มเลย
ภายในบ้านมีอยู่สองห้อง น่าน่าที่มาอยู่ก็ต้องไปอยู่กับถางอู่หลิน ถางจึหลานและถางอู่หลินสองพ่อลูกได้นำเตียงไม้อีกเตียงหนึ่งมาวางเอาไว้ตรงกลางห้อง
น่าน่าที่ดูจะเหนื่อยมาก ไม่นานนักนางก็ผล็อยหลับไป
“ท่านพ่อ ข้าไปทำสมาธิก่อนนะ”ถางอู่หลินรู้สึกพอใจกับการทำสมาธิมาก เขาอดไม่ไหวที่จะสัมผัสความรู้สึกนั้นอีกครั้ง เขาต้องการที่จะเป็นผู้ใช้วิญญาณ และอีกเหตุผลที่เพิ่มขึ้นมาก็คือเขาจะต้องปกป้องน้องสาวของเขา
カジノ シークレット カジノ シークレット fun88 soikeotot fun88 soikeotot m88 m88 betway betway クイーンカジノ クイーンカジノ 10cric 10cric 카지노 카지노 10cric login 10cric login 188bet 188bet 332
ตอบลบ